ว่าที่บ่าวสาวหลายคู่มักจะกลัวการคุยกับเซลล์ของ โรงแรมจัดงานแต่ง บางคู่กลัวโดนมองว่า “งก” หรือบางคู่ก็กลัวจะถูกมองว่า “เรื่องเยอะ” จนไม่กล้าถามในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ แต่ความจริงที่คนจัดงานต้องรู้คือ ถ้าคุณไม่ถาม คุณก็อาจจะพลาดดีลดี ๆ ที่ซ่อนอยู่ เพราะเซลล์เองก็อยากปิดการขาย และพวกเขามักจะมีของแถม ในใจที่พร้อมจะให้ หากลูกค้าน่ารักและมีความชัดเจนในสิ่งที่ต้องการ มาดูกันว่า 5 ทริกการเจรจา ที่จะทำให้คุณได้ดีลที่ดีที่สุด โดยที่เซลล์ยังรักและพร้อมบริการคุณเต็มที่ในวันงานมีอะไรบ้าง
5 เคล็ดไม่ลับ คุยกับเซลล์โรงแรมจัดงานแต่ง ให้ได้ดีลสุดคุ้ม
1. ทำการบ้านไปก่อน
การเดินเข้าไปคุยแบบไม่มีข้อมูลอะไรในหัวเลย นอกจากจะทำให้เซลล์ “นำเสนอ” แพ็คเกจที่ตรงใจคุณได้ยากแล้ว ยังทำให้เรา “เจรจา” ต่อรองได้ลำบากด้วย สิ่งที่ต้องเตรียมให้ชัดเจนก่อนนัดคุยคือ จำนวนแขก (ตัวเลขคร่าวๆ เช่น 250-300 คน ซึ่งนี่คือตัวเลขสำคัญที่สุด), วันที่ต้องการ, รูปแบบงานที่อยากได้ และงบประมาณในใจคร่าวๆ (เช่น 400k – 500k) ทริกจาก Planner คือ เซลล์จะประทับใจบ่าวสาวที่เตรียมตัวมาดี และมองว่าคุณ “จริงจัง” ที่จะจอง ไม่ใช่แค่มาเดินเล่นถามราคา
2. “ของแถม” สำคัญกว่า “ส่วนลด”
บ่าวสาวมักเริ่มด้วยการขอลด “ราคาต่อหัว” (เช่น จากหัวละ 1,500 เหลือ 1,400) ซึ่งเป็นสิ่งที่ โรงแรมจัดงานแต่ง ให้ยากที่สุด เพราะมันกระทบกับต้นทุนอาหาร (Food Cost) โดยตรง วิธีที่ดีกว่าคือการขอ “ของแถม” ที่เป็น “ต้นทุนต่ำ” ของโรงแรม แต่ “มีมูลค่าสูง” สำหรับเรา เช่น ขอฟรี! ค่าเปิดขวด (Corkage Fee) ซึ่งสำคัญมากและมักจะขอได้, ขออัปเกรดห้องพักธรรมดา เป็นห้อง Suite ที่ใหญ่ขึ้น, ขอเพิ่มซุ้มอาหาร (Food Station) ฟรี 1 ซุ้ม หรือขอบัตรกำนัลสปา/ห้องอาหารของโรงแรม เป็นต้น
3. ถามเรื่อง “วัน Off-Peak”
“ฤกษ์ดี” ที่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ คือ “วัน Peak” ที่โรงแรมขายดีที่สุด แน่นอนว่าอำนาจต่อรองของเราจะน้อยลงทันที อาจจะลองเปิดใจถามราคาสำหรับ “วัน Off-Peak” ดูบ้าง เช่น งานเลี้ยงฉลองเย็นวันศุกร์ หรือช่วงโลว์ซีซั่น (เช่น ฤดูฝน ซึ่งถ้าจัดงาน Indoor ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว) โรงแรมมักจะมี “ราคาพิเศษ” หรือ “Minimum Spend ที่ต่ำกว่า” สำหรับวันเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดงบก้อนใหญ่ได้ทันที

4. ใช้ “Minimum Spend” ให้เป็นประโยชน์
บ่อยครั้งที่เราจะเจอปัญหานี้ “แขกเรา 250 คน แต่ Minimum Spend (ยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ) ของโรงแรมคือ 500,000 บาท ซึ่งคำนวณไว้สำหรับ 300 คน เราจะทำยังไง?” การขอให้โรงแรมลด Minimum Spend มักจะไม่ได้ผลครับ วิธีที่ถูกต้องคือการเจรจาว่า “โอเค เรายินดีจ่ายที่ 500,000 บาท แต่เนื่องจากแขกเราไม่ถึง 300 คน เราขอแลกส่วนต่างนั้น เป็น…” เช่น ขออัปเกรดเมนูอาหารให้พรีเมียมขึ้น, ขอเพิ่มซุ้มอาหาร 2 ซุ้ม หรือขอฟรีเครื่องดื่ม Soft Drink ตลอดงาน วิธีนี้โรงแรมแฮปปี้ที่ได้ยอดตามเป้า เราก็แฮปปี้ที่ได้ของเพิ่มในงบเท่าเดิม (Win-Win)
5. สัญญาต้องชัด สรุปทุกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
นี่คือข้อที่สำคัญที่สุด ป้องกันปัญหาดราม่าหน้างานได้ 100% คำพูดปากเปล่าของเซลล์ (เช่น “เดี๋ยวพี่ดูแลให้ค่ะ”, “อันนี้แถมให้ได้”) ไม่มีผลทางกฎหมาย หลังจากพูดคุยตกลงกันจบ ให้คุณส่งอีเมลสรุปสิ่งที่เราคุยและ “ตกลง” กันทั้งหมดให้เซลล์อีกครั้ง และ “ก่อนเซ็นสัญญา” คุณต้องอ่านให้ละเอียด และเช็กให้มั่นใจว่า “ของแถม” ทุกอย่างที่ตกลงกันไว้ถูกระบุในสัญญา หรือ ใบยืนยัน อย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร

สรุป
การเจรจากับเซลล์ “โรงแรมจัดงานแต่ง” ไม่ใช่การต่อสู้ แต่คือการสร้างมิตรภาพและความเข้าใจที่ดีต่อกัน เพราะเซลล์คือคนที่จะช่วยดูแลงานของเราไปจนจบวันงาน จงเป็นคู่รักที่ “น่ารัก” (สุภาพ, ยิ้มแย้ม) แต่ “ชัดเจน” ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ (ตาม 5 ข้อที่ลิสต์มา) เมื่อคุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีบนพื้นฐานของความชัดเจน คุณจะได้ทั้ง “ดีลที่ดีที่สุด” และ “การบริการที่ยอดเยี่ยมที่สุด” ในวันสำคัญของคุณอย่างแน่นอน
Avana Hotel มีบริการ สถานที่จัดงาน เช่าห้องประชุม ห้องสัมมนา งานจัดเลี้ยง หรือ งานแต่งงาน รองรับได้มากถึง 1,000 คน เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน และ ใกล้บีทีเอสบางนาเพียง 2 กม. พร้อมบริการรับส่งฟรี
หากคณกำลังมองหาสถานที่ จัดงานอีเว้นท์ ที่จัดงานแต่ง ติดต่อเราได้ที่ Line @avana หรือโทร 02-763-2900
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก Avana Bangkok Hotel & Convention Centre
