เชื่อว่าแขกที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ทุกคนต้องเคยเจอประสบการณ์นี้ เมื่อได้รับซองงานแต่ง สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัว อาจไม่ใช่การดีใจว่าจะได้ไปร่วมยินดี หรือ “จะใส่ชุดอะไรดี?” แต่อาจจะเป็นคำถามที่ว่า งานนี้จัดที่ไหน รถจะติดไหม ติดรถไฟฟ้าหรือเปล่า

เพราะเราต้องเผื่อเวลาในการเดินทาง และถ้าใครนำรถส่วนตัวมา เราอาจต้องพบกับปัญหารถติด พอถึงที่งานก็ต้องหาที่จอดใช้เวลาไปเยอะพอสมควร การเลือก สถานที่จัดงานแต่ง กทม ที่ติดรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่มันคือ “การให้เกียรติแขก” และอยากให้คุณมางานเราแบบง่ายและสะดวกที่สุด

3 Pain Points ของ “แขก” ที่บ่าวสาว กทม ต้องรู้

ก่อนจะตัดสินใจเลือก ที่จัดงานแต่ง บ่าวสาวควรเข้าใจหัวอกของ “แขก” ที่ต้องเดินทางมาร่วมงานในวันหยุดอันแสนวุ่นวายก่อน นี่คือ 3 ปัญหาคลาสสิกที่ทำให้แขก “ไม่อยากมา” หรือ “มาแบบไม่มีความสุข”

1. ความเครียดจากการ “เผื่อเวลา” 

ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่มีฤกษ์ดีตรงกันหลายงาน การจราจรใน กทม. อาจสาหัสไม่ต่างจากเย็นวันศุกร์ แขกที่ตั้งใจจะมาร่วมพิธีการสำคัญ เช่น พิธีหมั้นเช้า หรือช่วงเปิดตัวบ่าวสาวในงานเย็น ต้องออกจากบ้านล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง พวกเขาต้องเสียสละเวลาพักผ่อนในวันหยุดไปกับการนั่งเครียดอยู่บนท้องถนน และที่เจ็บปวดที่สุดคือ แม้จะเผื่อเวลาขนาดนั้นแล้ว ก็อาจจะยังมาสายอยู่ดี

2. ที่จอดรถที่ไม่รู้จะเต็มไหม?

นี่คือปัญหาโลกแตกของจริง โดยเฉพาะโรงแรมยอดนิยมใจกลางเมือง ต่อให้แขกฝ่ารถติดมาถึงหน้างานได้ ก็ต้องมาเจอด่านต่อไปคือ “ป้ายที่จอดรถเต็ม” หรือการวนหาที่จอดรถเป็นวงกตนานนับครึ่งชั่วโมง บางครั้งต้องจอดซ้อนคัน หรือต้องไปจอดในอาคารจอดรถที่ไกลออกไปแล้วเดินตากแดดตากฝนมาที่งาน แย่กว่านั้นคือบาง สถานที่จัดงานแต่ง ไม่สามารถสแตมป์บัตรจอดรถได้เพียงพอ แขกต้องมาจ่ายค่าจอดรถแพงๆ เองอีก

3. พลังงานที่หายไป

กว่าจะฝ่าฟันทั้งรถติดและการหาที่จอดรถมาถึงจุดลงทะเบียนได้ แขกก็แทบจะหมดพลังงานไปแล้ว ผู้หญิงที่แต่งหน้าทำผมมาอย่างสวยงามอาจจะเหงื่อซึมจนต้องรีบวิ่งไปเติมหน้าในห้องน้ำ ผู้ชายที่ใส่สูทมาอย่างดีก็อาจจะหงุดหงิดจากความร้อนและความเหนื่อยล้า อารมณ์ที่จะร่วมยินดี ถ่ายรูปเล่นกับเพื่อน หรือสนุกกับบรรยากาศในงานก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

แล้วที่จัดงานแต่งติดรถไฟฟ้า “แก้เกม” ปัญหานี้ยังไง?

ทำเลที่จัดงานแต่งติดรถไฟฟ้า ช่วยแก้ 3 ปัญหาข้างต้นได้อย่างดี และนี่คือเหตุผลว่าทำไมทำเลถึงชนะทุกสิ่งสำหรับแขก

1. คุมเวลาได้ 100%

ข้อดีที่สุดของรถไฟฟ้าคือ “ความตรงเวลา” แขกสามารถเปิดแอปพลิเคชันและคำนวณเวลาเดินทางได้เป๊ะๆ (เช่น 30 นาทีจากบ้านถึงสถานี) ไม่ต้องบวกลบเผื่อเวลาเป็นชั่วโมงเหมือนการขับรถ พวกเขาสามารถวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น มีเวลาแต่งตัวมากขึ้น และมาถึงงานได้ทันฤกษ์สำคัญด้วยความผ่อนคลาย

2. ทางเลือกที่สะดวกสบายที่สุด

สำหรับแขกกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนวัยทำงาน หรือคนที่ไม่สะดวกขับรถ (หรือ “ไม่อยาก” ขับรถฝ่าความวุ่นวายในวันหยุด) การ เช่าสถานที่จัดงานแต่ง ที่ติดรถไฟฟ้าคือทางออกที่สบายที่สุด พวกเขาสามารถแต่งตัวสวยหล่อเต็มที่ แล้วเดินขึ้นรถไฟฟ้าปรับอากาศเย็นฉ่ำ มาลงหน้าโรงแรมได้เลยโดยไม่ต้องเสียพลังงานไปกับเรื่องไม่จำเป็น

3. หมดปัญหาเรื่องที่จอดรถ 

เมื่อแขกส่วนใหญ่ เลือกที่จะเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า ผลดีที่ตามมาทันทีคือ “ที่จอดรถ” ของโรงแรมจะว่างมากขึ้น ทำให้เพียงพอสำหรับแขกกลุ่มที่จำเป็นต้องขับรถมาจริงๆ เช่น ญาติผู้ใหญ่ที่มีอายุ พ่อแม่ หรือครอบครัวที่มีลูกเล็ก การเลือกทำเลติดรถไฟฟ้าจึงเป็นการจัดสรรทรัพยากรที่จอดรถอันมีค่าให้กับคนที่ต้องการมันมากที่สุดโดยอัตโนมัติ

แขกแฮปปี้ แล้ว “บ่าวสาว” ได้อะไร?

เมื่อแขกเดินทางมาอย่างสะดวกและมีความสุข คนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือ “บ่าวสาว” เจ้าของงานนั่นเอง

1. งานเริ่มตรงเวลา

เมื่อแขกส่วนใหญ่สามารถมาถึงงานได้ตรงเวลา พิธีการสำคัญต่างๆ ที่บ่าวสาวเตรียมไว้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงตั้งแถวรับตัว, การเปิดตัวบ่าวสาว, พิธีตัดเค้ก หรือการโยนดอกไม้ ก็จะสามารถเกิดขึ้นตามกำหนดการ (Rundown) ที่วางไว้ได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องดีเลย์เพื่อรอแขกคนสำคัญที่ยังติดอยู่บนถนน

2. บรรยากาศงานที่ดีเยี่ยม

นี่คือสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ เมื่อแขกมาถึงงานด้วยพลังงานบวก (Good Energy) พวกเขาจะพร้อมยิ้มแย้ม ถ่ายรูปกับบ่าวสาว เดินทักทายเพื่อนฝูง และร่วมสนุกกับกิจกรรมในงานอย่างเต็มที่ (แทนที่จะต้องนั่งพักเหนื่อยหรือหาอะไรเย็นๆ ดื่มที่มุมห้อง) บรรยากาศโดยรวมของงานจึงเต็มไปด้วยความสุขและความยินดีอย่างแท้จริง

3. แขกอยู่จนจบงาน

ปัญหาคลาสสิกของงานแต่ง กทม. คือ แขกมักรีบทยอยกลับบ้านตั้งแต่หัวค่ำ เพราะ “กลัวรถติดขาออก” หรือ “กังวลเรื่องการเดินทางกลับ” แต่สำหรับ ที่จัดงานแต่ง ที่ติดรถไฟฟ้า แขก (โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนสนิท) จะไม่มีความกังวลนี้ พวกเขาพร้อมที่จะอยู่ต่อเพื่อสนุกสนานใน After Party อย่างเต็มที่ เพราะรู้ว่าแค่เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงสถานีรถไฟฟ้า และกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยสบาย ๆ

คำถามที่พบบ่อย

Q1: ถ้าเลือกโรงแรมติด BTS แล้วแขกที่ขับรถมาล่ะ ที่จอดรถจะพอเหรอ? 

A: โรงแรมจัดงานแต่งที่ดี แม้จะติดรถไฟฟ้า ก็ยังต้องมีที่จอดรถที่เพียงพอตามมาตรฐานของโรงแรมอยู่แล้วครับ และอย่างที่กล่าวไป การที่แขกส่วนหนึ่ง “เลือก” ใช้รถไฟฟ้า ยิ่งทำให้ “ที่จอดรถที่เหลือ” เพียงพอสำหรับแขกผู้ใหญ่ ญาติ หรือคนที่จำเป็นต้องขับรถมาจริงๆ 

Q2: โรงแรมจัดงานแต่งที่ติดรถไฟฟ้า ราคาแพงกว่าที่อื่นมากไหม? 

A: ไม่เสมอไป ปัจจุบันมีโรงแรมระดับ 4 ดาว หรือโรงแรมสไตล์บูทีคหลายแห่งที่อยู่บนแนวรถไฟฟ้า และมีแพ็คเกจแต่งงานที่คุ้มค่ามาก (งบไม่บานปลาย) เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายที่แขกได้รับ (รวมถึงค่าเดินทางและค่าที่จอดรถที่แขกประหยัดได้) ถือว่าคุ้มค่ามาก

Q3: แขกจะรู้ได้ยังไงว่าโรงแรมเราติดรถไฟฟ้า 

A: นี่คือจุดที่บ่าวสาวต้องเน้นย้ำ ระบุในการ์ดเชิญ หรือแผนที่ออนไลน์ (เช่น Google Maps) ให้ชัดเจนที่สุด เช่น “โรงแรม A (ติด BTS สถานี B ทางออก 3)” หรือ “เดินทางสะดวกด้วย MRT สถานี C” เพื่อให้แขกรับรู้ข้อมูลนี้และสามารถวางแผนการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับตัวเองได้

สรุป

การเลือก สถานที่จัดงานแต่ง กทม ที่เดินทางสะดวก ไม่ใช่เป็นเพียงการ เช่าสถานที่จัดงานแต่ง แต่คือ “การลงทุน” ที่คุ้มค่าที่สุดอย่างหนึ่งในการจัดงาน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับแขกที่มางาน ช่วยให้งานเริ่มตรงเวลา บรรยากาศราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ และสร้างความประทับใจให้ทุกคนที่มาร่วมงานจดจำได้ว่า “งานนี้เป็นงานที่มาง่าย สบาย และสนุกจริงๆ”

Avana Hotel มีบริการ สถานที่จัดงาน เช่าห้องประชุม ห้องสัมมนา งานจัดเลี้ยง หรือ งานแต่งงาน รองรับได้มากถึง 1,000 คน เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน และ ใกล้บีทีเอสบางนาเพียง 2 กม. พร้อมบริการรับส่งฟรี 

หากคณกำลังมองหาสถานที่ จัดงานอีเว้นท์ ที่จัดงานแต่ง ติดต่อเราได้ที่ Line @avana หรือโทร 02-763-2900
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก Avana Bangkok Hotel & Convention Centre